10หนังน่าดู2018

1. MISSION : IMPOSSIBLE 6 (FALLOUT) ดำเนินมาถึงภาคที่ 6 กันแล้วกับภาพยนตร์แอ็คชั่นสุดมัน ที่ยังคงได้นักแสดงนำคู่บุญอย่าง Tom Cruise กลับมารับหน้าที่เป็น อีธาน ฮันท์เช่นเดิม โดยภาคนี้เป็นเรื่องราวของปฏิบัติการที่ต้องแข่งกับเรื่องของเวลาเพื่อไม่ให้ภารกิจต้องผิดพลาด โดยนอกจากทอม ครูซ แล้วก็ยังมีนักแสดงชั้นนำอีกมากมายมาร่วมแสดงเช่น Rebecca Ferguson และ Michelle Monaghan 2. Christopher Robin ย้อนวันวานช่วงวัยเด็กของหลายๆ คนให้กลับมาอีกครั้งกับ คริสโตเฟอร์ โรบิน ชายหนุ่มที่ต้องรับหน้าที่ทำงานสุดยากจากหัวหน้า ด้วยความเครียดทั้งเรื่องงานและครอบครัวทำให้เขาได้กลับมาพบกับเพื่อนเก่าสุดน่ารักอย่าง พูห์ หมีสีเหลืองที่จะพาคริสโตเฟอร์ ไปสู่ความสุขของวัยเยาว์อีกครั้งหนึ่ง นำแสดงโดย Ewan McGregor และ Hayley Atwell 3. THE FIRST PURGE ภาคนี้จะพาคุณย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นของค่ำคืนแห่งการไล่ฆ่ากันจนกลายมาเป็นธรรมเนียมของคืนล้างบาปที่เกิดขึ้นทุกปี ใครที่เป็นแฟนหนังเรื่องนี้มีควรพลาดด้วยประการทั้งปวง นำแสดงโดย Y’lan Noel, Lex Scott Davis 4….

รีวิวหนัง “2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว”

ตูน บอดี้แสลมป์ ผู้ชายคนหนึ่งที่ครั้งนึงเคยทำอะไรที่ยิ่งใหญ่เพื่อคนไทยมากมาย ก้าวแรกที่เขาเริ่มต้นทำสิ่งนั้น หลายคนก็เชื่อว่าเป็นเรื่องที่ยากและไม่เกินความสามารถของเขา แต่ด้วยกำลังใจที่เปี่ยมล้นของคนไทย ทำให้สิ่งที่เขาว่ายากนั้นกลับกลายเป็นเรื่องง่ายๆ ในพริบตา ใครจะรู้ว่าเรื่องราวการวิ่งที่มีจุดเริ่มต้นจากความต้องแค่ “การให้” จะกลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่คนไทยทุกคนจะไม่มีวันลืม  ภาพยนตร์สารคดีชุด “2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว” เป็นภาพยนตร์สารคดีที่ถ่ายทอดเรื่องราวของพี่ตูน ตั้งแต่จุดเริ่มต้น กับเหตุผลว่าทำไมถึงเกิดโปรเจคนี้ และนำเสนอเบื้องหลังทุกกระบวนการทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ของพี่ตูน คงไม่ต้องอธิบายว่าภาพยนตร์สารคดีนี้เรื่องราวคืออะไร แต่สิ่งที่อยากจะบอกและอยากให้คนไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ให้กับตัวเอง ภาพยนตร์ไม่ได้สะท้อนเพียงแค่เรื่องราวของพี่ตูน แต่ทุกคนที่อยู่เคียงข้างร่วมสร้างฝันไปกับพี่ตูน ได้ถูกสะท้อนให้เห็นทุกแง่มุมอย่างชัดเจน ความเหนื่อยล้า ความยากลำบาก และความสำเร็จ ที่ไม่ใช่เป็นของพี่ตูนคนเดียว แต่ความสำเร็จนี้อยู่ในความทรงจำของคนทุกคน นอกจากนี้เนื้อหาบางช่วงของภาพยนตร์ยังสะท้องมุมมองของกลุ่มคนที่ยืนรอพี่ตูน ถึงมันจะเป็นเพียงแค่เสี้ยววินาทีที่พี่ตูนวิ่งผ่าน แต่มันเป็นโมเมนต์ที่ยิ่งใหญ่จริงๆ และผู้กำกับได้สะท้อนความรู้สึกของคนที่รอได้ดีเยี่ยม ที่สามารถทำให้คุณยิ้มและร้องไห้ได้ในเวลาเดียวกัน  ทุกการกระทำมันต้องมีอุปสรรคครับ และทุกอุปสรรค ถ้าเรามีใจที่มุ่งมั่น เชื่อเถอะครับว่ามันจะผ่านไปได้ มีคำหนึ่งคำที่กล่าวไว้ในภาพยนตร์ ที่นอกจากจะเป็นแรงบันดาลใจของพี่ตูนแล้ว ยังเป็นแรงผลักดันให้ ทีมงานทุกคนทำฝันที่ยิ่งใหญ่ของพี่ตูนให้สำเร็จ นั่นก็คือ “พี่ตูนทำได้ เราก็ทำได้” และผมเชื่อว่าถ้าเรามีความฝันอะไร ถ้าเราทำ มันต้องทำได้ครับ ให้คะแนนเลย 10 เต็มครับ “2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว” ฉายให้ชมฟรี จำนวน 720,000 ที่นั่ง ตั้งแต่วันที่ 6-16 กันยายน…

มารยาทในการดูหนัง

มารยาทที่ดีในการวางตัวทั่วไปในยามไปชมละคร โขน หนัง เป็นเรื่องที่ทุกคนน่าจะรู้ๆ กันอยู่แล้วเป็นพื้นฐาน แต่ทำไม้…ทำไม เรายังต้องพบปะเจอะเจอกับพฤติกรรมของคนรอบข้างในโรงหนังโรงละคร ซึ่งแปลกบ้าง เปิ่นบ้าง บางครั้งก็มีเรตเอ็กซ์เรตอาร์ประปรายให้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ บางพฤติกรรมที่มากระทบกับเราก็เพียงดูน่าขำ แต่บางเรื่องก็น่ารังเกียจ เพราะก่อความเดือดร้อนรำคาญใจให้เราและผู้คนรายรอบ  คุณเองก็คงไม่อยากเป็นตัวตลก หรือเป็นบุคคลน่ารังเกียจเช่นนั้นใช่มั้ยคะ แต่รู้มั้ยว่ายังอาจมีพฤติกรรมบางอย่างของตัวเราเอง ที่เราเคยชินจนเห็นเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ ไม่รู้สึกว่าจะน่าเกลียดแต่ประการใด  แต่ถ้าจะให้ดีแล้ว เราจะมาคิดเองเออเอง ตัดสินความประพฤติของตัวเองอยู่ฝ่ายเดียวคงไม่ได้ เพราะบางเรื่องคนอื่นเขาอาจไม่ชินกับเราด้วย และเห็นว่ามันไม่เหมาะไม่งาม แถมรบกวนความสำราญของมวลชนคนดูหนังเขาได้ ดังนั้น ข้อแนะนำต่อไปนี้ จะช่วยให้คุณตรวจดูพฤติกรรมของตัวเองว่าได้ประพฤติตัวดีครบถ้วนเหมาะงามตามแบบแผนของผู้ดีมีอารยธรรมหรือไม่ 1.ไปแต่เนิ่นๆ           จะได้มีเวลาเช็กดูเวลาของรอบการฉายหนังแต่ละเรื่องที่เราต้องการ เพื่อจะได้ไม่ต้องรีบตาลีตาเหลือกไปยื้อแย่งแซงคิวซื้อตั๋วให้ดูเสียกริยา ไร้วัฒนธรรม 2.รับประทานซะให้อิ่มอย่างเพียงพอ           หากมีเวลาก่อนเข้าดูหนัง ควรทาน-ดื่มเสียให้อิ่มอย่างพอเพียง จะได้ไม่ไปเกิดอาการท้องร้องโครกครากในขณะที่หนังกำลังฉายบทกระซิบกระซาบรัก โรแมนติกอยู่ให้เป็นที่อับอายคนครึ่งค่อนโรง และไม่ควรทานอิ่มแน่นล้นจนไปนั่งเรอเอิ้กอ้ากให้เขาจับได้ว่าเราเป็นคนตะกละ กลาม ซึ่งก็น่าอับอายพอกัน 3.เข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย           เพราะการเดินแทรกแถวนั่งออกมาเข้าห้องน้ำในขณะที่ผู้ดูอื่นๆ เขากำลังอินกับหนังอยู่นั้นมันทำลายอารมณ์สำราญเป็นที่สุด 4.เข้านั่งประจำที่ตั้งแต่ก่อนหนังตัวอย่างฉาย ไม่ต้องรอจนกว่าจะได้ยินเสียงแว่วเพลงสรรญเสิญพระบารมีก่อนจึงค่อยวิ่งลนลาน ผ่านหน้าประชาชีเขาเข้าไปให้เกิดความหงุดหงิด และอาจพลาดไปเหยียบตุ่มตาปลาที่เท้าใครเขาให้ต้องมีเรื่องเคืองกัน 5.พกลูกอมขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มเข้ามาได้ แต่ก็ให้ดูด้วยว่าไม่ควรเป็นขนมที่ขบทีก็ดัง https://guru.sanook.com/6874/

การรีวิวหนัง

ไม่ว่าภาพยนตร์เรื่องหนึ่งจะห่วยแตกแค่ไหน หรือดีเลิศประเสริฐเพียงใด ขอแค่มีผู้ชม ภาพยนตร์เรื่องนั้นก็ควรค่าแก่การวิจารณ์ บทวิจารณ์ภาพยนตร์ที่ดีควรจะให้ความบันเทิง โน้มน้าว และให้ข้อมูลในเวลาเดียวกัน โดยแสดงความเห็นในแบบของผู้วิจารณ์โดยไม่เผยพล็อตเรื่องมากเกินไป บทวิจารณ์ที่ “ยอดเยี่ยม” ก็จัดเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่งได้อย่างไม่ต้องสงสัย ลองอ่านขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อศึกษาวิธีวิเคราะห์ภาพยนตร์ วิธีคิดประเด็นหัวข้อที่น่าสนใจ และวิธีเขียนบทวิจารณ์ให้สนุกราวกับตัวภาพยนตร์เอง ศึกษาแหล่งข้อมูล 1รวบรวมข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องที่คุณจะวิจารณ์. คุณอาจหาข้อมูลก่อนหรือหลังไปชมภาพยนตร์นั้นก็ได้ แต่ก่อนจะเขียนวิจารณ์ คุณต้องหาข้อมูลเหล่านี้ไว้แล้ว เพราะคุณจะต้องร้อยเรียงข้อมูลเหล่านั้นขณะที่คุณเขียน ข้อมูลพื้นฐานที่คุณควรรู้คือ ชื่อภาพยนตร์ และปีที่ออกฉาย ชื่อผู้กำกับ ชื่อนักแสดงนำ ประเภทของภาพยนตร์ (genre) 2จดโน้ตไปด้วยขณะดูหนัง. ก่อนที่คุณจะนั่งลงเปิดภาพยนตร์ดู หาสมุดโน้ตสักเล่ม หรือแลปท็อปสักเครื่องไว้จดสิ่งต่างๆ ภาพยนตร์ทั้งเรื่องกินเวลานานโข และคุณก็อาจลืมรายละเอียดหรือประเด็นสำคัญๆ ในพล็อตเรื่องได้ง่ายๆ การจดโน้ตจะช่วยให้คุณสามารถกลับมาอ่านใหม่ได้ภายหลังจดโน้ตทุกครั้งที่มีบางสิ่งโดดเด่นสะดุดใจคุณ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเตะตาคุณในทางดีหรือทางแย่ก็ตาม เช่น เครื่องแต่งกายของตัวละคร การแต่งหน้า การออกแบบฉาก ดนตรีประกอบ ฯลฯ ลองคิดดูว่ารายละเอียดเหล่านี้เชื่อมโยงกับส่วนอื่นๆ ที่เหลือของภาพยนตร์อย่างไร และสิ่งเหล่านี้มีความหมายอย่างในบริบทการวิจารณ์ของคุณ จดรูปแบบที่คุณสังเกตได้ในตอนเรื่องราวในภาพยนตร์คลี่คลาย กด “หยุด” บ่อยๆ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณไม่พลาดอะไรในภาพยนตร์ และกรอย้อนดูถ้าจำเป็น 3วิเคราะห์กลไกของเรื่อง วิเคราะห์องค์ประกอบต่างๆ ที่ปรากฏรวมกันในภาพยนตร์. และหลังจากที่ดู หรือในระหว่างที่ดูอยู่นั้น ถามตัวเองว่าหนังทำให้คุณรู้สึกอย่างไรบ้างในด้านต่างๆ ต่อไปนี้:…

Mission: Impossible – Fallout

ยกว่าเป็นหนังที่มาแรงที่สุดในช่วงนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับ Mission: Impossible – Fallout แฟรนไชส์หนังแอคชั่นสายลับที่ครองใจแฟนหนังมานานถึง 22 ปีแล้ว แน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่สุดก็คือตัวละคร อีธาน ฮันต์ สายลับผู้ทำภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ ซึ่งรับบทโดยนักแสดงรุ่นเก๋า ทอม ครูซ ที่เวลาและอายุไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย มาดูกันว่าในภาคนี้จะมันทะลุจุดเดือดกันแค่ไหน Mission: Impossible – Fallout ว่าด้วยเรื่องราวของสายลับ อีธาน ฮันต์ และทีม IMF พร้อมกับเหล่าพันธมิตรต้องแข่งกับเวลา เมื่อรู้ว่าภารกิจผิดพลาด ขอบอกเลยว่าในภาคนี้หนังทำออกมาเรียกได้ว่าอาจจะดีกว่าทุกภาคที่ผ่านมา ด้วยการเดินเรื่องที่มีชั้นเชิง มีความหักมุมตลอดบวกกับการใส่ฉากแอคชั่นอันเป็นจุดขายซึ่งมีความสมจริง ทั้งเล่นจริง เจ็บจริง เห็นแล้วเหนื่อยแทนจริงๆ จึงไม่ผิดนักหากยกให้เป็นหนังแอคชั่นทรงคุณค่าอีกหนึ่งเรื่อง นอกจากความแอคชั่นที่โคตรเดือดที่ลุ้นจนจิกเบาะแทบขาดแล้ว หนังยังให้มิติความเป็นคนธรรมดาให้กับตัวละครของ อีธาน ฮันต์ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความอาลัยอาวรณ์กับความรัก ผู้หญิง และชีวิตในอดีตที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจ จนเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้เกิดความผิดพลาด แต่เขาก็สามารถแก้วิกฤตให้เป็นโอกาสได้และเหนือสิ่งอื่นใดการช่วยโลกย่อมมาก่อนเรื่องส่วนตัวเสมอ แน่นอนว่านอกจากเราจะได้เห็นความแอคชั่นที่โหดสมกับชื่อหนังแล้ว เรายังได้เห็นวิวสวยๆ งามๆ จากหนังที่ช่วยส่งให้มีเสน่ห์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นที่ปารีส ลอนดอน หรือแคชเมียร์ (ในหนัง) ที่ล้วนแล้วแต่ถูกถ่ายทอดผ่านฉากแอคชั่นได้อย่างไม่มีที่ติ จากทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาจึงไม่แปลกใจเลยที่ Mission: Impossible ในภาคนี้ได้คะแนนวิจารณ์จากเมืองนอกสูงมาก จะเห็นได้ว่า Mission: Impossible ในแต่ละภาคนั้มักจะมีความเป็นผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเสมอไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง และยิ่งภาคหลังๆ มานี้หนังยิ่งให้ความสำคัญกับพลังหญิงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะภาคนี้ที่ได้สะท้อนความสำคัญของความเป็นผู้หญิงออกมาได้อย่างน่าประทับใจ ไม่รู้ว่าเรายังจะได้เห็นนักแสดงอายุ…